วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

กันยายน เดือนเปิดตัว "ของเล่นใหม่"


กันยายน เดือนเปิดตัว "ของเล่นใหม่"
นับจากวันนี้ก็เหลือเวลาอีกประมาณ 1 เดือนก็จะก้าวเข้าสู่เดือนกันยายน เดือนที่ผู้คนทั่วโลกจับตามองไปที่วงการโทรศัพท์มือถือเพราะจะเป็นช่วงเวลาแห่งการขับเคี่ยวกันระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิ้ลกับซัมซุงอย่างแท้จริงสำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของตัวเอง โดยมีโซนี่ และค่ายอื่นๆพร้อมทรอดแทรกขึ้นมาเป็นดาวเด่นอีกเช่นเดียวกัน
กระแสข่าวมากมายที่มักจะเป็นการเต้าข่าวซะเป็นส่วนใหญ่แต่ที่รายงานตรงกันคือเดือนเปิดตัวที่ตกมาอยู่ในเดือนกันยายนแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอปเปิ้ล ได้แก่ iPhone 5S, iPhone 5C (iPhone low cost) หรือจะ iPad 5 ส่วนซัมซุงก็ไม่น้อยหน้าเตรียมส่งเจเนอเรชั่นที่ 3 ของโทรศัพท์มือถือตระกูลจอยักษ์อย่าง Galaxy Note 3 ที่คราวนี้จะมาเป็นขบวนการเช่นเดียวกับ Galaxy S4 นอกจากนี้โซนี่ก็ไม่น้อยหน้าเตรียมส่ง Sony Xperia i1 Honami โทรศัพท์มือถือที่จะโดดเด่นในเรื่องการถ่ายภาพด้วยเทคโนโลยี Cybershot ซึ่งผลิตภัณฑ์จากทั้ง 3 ค่ายนับเป็น "ของเล่นใหม่" ที่ผู้ติดตามข่าวตลอดจนผู้ที่กำลังต้องการเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือใหม่ให้ความสนใจเป็นพิเศษ
นอกจากตัวเครื่องหรือฮาร์ดแวร์ใหม่ๆแล้ว ซอฟต์แวร์สนับสนุนจะอยู่แบบเดิมคงจะไม่ไหวเพราะฉะนั้นในเดือนกันยายนนี้โอเอสใหม่อย่าง iOS 7 เวอร์ชั่นสมบูรณ์ก็เตรียมให้ผู้ใช้ iPhone, iPad รวมถึง iPod รุ่นเก่าได้เปลี่ยนมาใช้กันถ้วนหน้าในเดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป (แต่บางรุ่นอาจผิดหวังไปบ้างเพราะไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ได้ครบ) เช่นเดียว Android 4.3 ที่เพิ่งตัวไปไม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็จะทะยอยให้โทรศัพท์มือถือตระกูลแอนดรอยด์บางรุ่นได้อัพเกรดกัน ซึ่งก็ต้องติดตามข่าวการกำหนดวันเวลาที่ชัดเจนจากทางค่ายมือถืออีกครั้ง แถมอาจจะมีเซอร์ไพรส์ด้วยโอเอสน้องใหม่อย่าง Tizen ที่เกิดจากซัมซุงและอินเทลโผล่ขึ้นมาด้วยก็เป็นได้
แต่ยังไงเสียการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในต่างประเทศของทั้งแอปเปิ้ล, ซัมซุง, โซนี่ หรือจะค่ายอื่นๆ กว่าจะมาถึงประเทศไทยก็ต้องรออย่างน้อย 1 เดือน ใครที่เล็งรุ่นไหนไว้และรอถึงปลายปีนี้ได้ก็อดทนอีกสักนิดนะครับ

ที่มา sanook.com

ห้องนอนวัยรุ่น สุดเจ๋ง ! กับมุมนั่งเล่นต่างระดับ


            สำหรับวัยรุ่นที่กำลังอยากตกแต่งห้องนอนของตัวเอง คุณพ่อคุณแม่คงกำลังมองหาไอเดียตกแต่งห้องนอนวัยรุ่นที่จะถูกอกถูกใจทั้งสองฝ่ายอยู่ และถ้าหากยังไม่รู้จะเลือกตกแต่งห้องนอนแบบไหนให้ลูก ๆ ดี ลองมาดูตัวอย่างห้องนอนเจ๋ง ๆ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้สิคะ รับรองว่าทั้งเท่ ทั้งเก๋ จนต้องร้องว้าว ! เลยล่ะ

            โดยห้องนอนวัยรุ่นห้องนี้ มีพื้นที่กว้างขวางเหลือเฟือ พอให้สามารถออกแบบได้ตรงตามความต้องการของเจ้าของห้อง การตกแต่งจึงเน้นความธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ตั้งแต่การใช้ผนังสีสว่างรอบห้อง และเพิ่มความโดดเด่นของผนังด้านหนึ่งด้วยสีฟ้าบลูยีนส์ ส่วนอีกด้านหนึ่งวาดลวดลายถนนเป็นทางยาวไปไกลสุดตา ซึ่งเข้ากันได้ดีกับพื้นปูนขัดมันภายในห้องที่ดูแล้วคล้ายกับผิวถนน

            เตียงนอนไม้อัดเรียบง่ายถูกวางไว้ชิดมุมห้อง ปูด้วยชุดเครื่องนอนสีฟ้าลายสก็อต จุดเด่นสำคัญของห้องนี้ คือบริเวณมุมนั่งเล่นที่ถูกยกขึ้นสูงเหนือพื้น มีเบาะรองนั่งและหมอนนุ่ม ๆ เอาไว้สำหรับนั่งเล่นหรือนอนเล่นได้ชิล ๆ โดยมีโต๊ะทำการบ้านและชั้นวางของต่าง ๆ อยู่ด้วย ส่วนทีวีติดตั้งไว้กับผนังจะได้ไม่เกะกะพื้นที่ ปูพรมลายทางน่ารัก ๆ สักผืน ก็จะได้ห้องนอนวัยรุ่นที่เก๋จนไม่อยากออกจากห้องแล้วค่ะ


ห้องนอนวัยรุ่น ห้องนอนเด็กสีฟ้า

ห้องนอนวัยรุ่น ห้องนอนเด็กสีฟ้า

ห้องนอนวัยรุ่น ห้องนอนเด็กสีฟ้า

ห้องนอนวัยรุ่น ห้องนอนเด็กสีฟ้า

ห้องนอนวัยรุ่น ห้องนอนเด็กสีฟ้า

ห้องนอนวัยรุ่น ห้องนอนเด็กสีฟ้า

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ArtDes3d

ฮือฮา! BMW เปิดตัวรถรุ่นใหม่ แค่ 1.3 ล้าน


     จากที่ทาง BMW  ทำการศึกษาวิจัย และพัฒนามายาวนาน ในที่สุด BMW ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกในประวัติศาสตร์อย่าง  BMW i3 2014  “BMW i3” คือ ชือ่รุ่นรถยนต์ที่เราจะนำมาอัพเดท ได้ชมก่อนใคร เมื่อต้นสังกัดเปิดเผยอย่างเป็นทางการแล้วว่าเจ้ารถยนต์รุ่นที่ แฟนรถยนต์จากค่าย BMW รอคอยอยู่นั้นจะเริ่มทำการวางไลน์ผลิตอย่างจริง จังแน่นอนแล้ว โดยใช้โครงสร้างห้องโดยสารทำด้วยพลาสติก เสริมคาร์บอนไฟเบอร์ซึ่งมีน้ำหนักเบาแต่ให้ความทนทานเท่ากับเหล็กทั่วไป ทำให้น้ำหนักตัวถังของ i3 อยู่ที่เพียง 1,200 กก.เท่านั้น แต่ยังคงสามารถทำอัตราเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้เวลาเพียง 7.2 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดขณะขับขี่ได้ระหว่าง 130-160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

     BMW ไอ3 มีรุ่นย่อยทั้งหมด 2 รุ่น โดยรุ่นแรกเป็นรุ่นมาตรฐานซึ่งใช้แบตเตอรี่ขนาด 22 กิโลวัตต์ สามารถวิ่งได้ระยะทางประมาณ 130-160 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และอีกรุ่นที่สองคือรุ่นเพิ่มระยะทาง โดยอาศัยเครื่องยนต์ขนาด 650 ซีซีให้กำลัง 34 แรงม้า ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าสู่แบตเตอรี่เพิ่มเติม ส่งผลให้รถสามารถวิ่งได้ไกลขึ้นถึง 300 กิโลเมตรเลยทีเดียว

     สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่แบ่งเป็น 2 แบบ โดยการชาร์จแบบปกติใช้เวลาทั้งหมด 8 ชั่วโมง แต่หากใช้ ไอ วอลบ็อกซ (I Wallbox) ก็จะสามารถลดเวลาชาร์จได้เหลือเพียง 6 ชั่วโมง และการชาร์จอีกแบบหนึ่งคือ แบบด่วนซึ่งจะเต็มที่ 80 เปอร์เซ็นต์ โดยใช้เวลาเพียง 30 นาทีจากแท่นชาร์จสาธารณะซึ่งจ่ายไฟฟ้ากำลัง 50 กิโลวัตต์ ทั้งนี้ทาง BMW จะแผนวางจำหน่ายรถรุ่นนี้ในเยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ ภายในเดือนพฤศจิกายน ปีนี้ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 35,000 ยูโร หรือประมาณ 1.45 ล้านบาท
ที่มา sanook.com

วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

5 ที่ท่องเที่ยวสุดแปลกทั่วโลกเห็นแล้วจะตะลึง



ที่มา sanook.com

10 สถานที่สุดฮิตมาแรงครึ่งปี 2013

1.ดาษดาแกลเลอรี่ รายล้อมด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ ครบครันทั้งที่พัก และที่เที่ยว เป็นอาณาจักรฟาร์มดอกไม้ที่กว้างใหญ่อีกทั้งเป็นรีสอร์ทท่ามกลางทิวทัศน์ธรรมชาติที่คุณจะได้ถ่ายรูปกับดอกไม้นานาพันธุ์
2.ซานโตรินี พาร์ค เป็นสถานที่แห่งสีสันที่จัดให้มีกิจกรรมตลอดทั้งปี ออกแบบพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 3,000 ตารางเมตรให้สอดคล้องกับกิจกรรมต่างๆ ที่จะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องและยังได้รังสรรค์บรรยากาศให้เหมาะสำหรับการพักผ่อนต่างสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดพื้นที่สวนที่เปิดโล่ง เพื่อให้สามารถนั่งฟังเพลงจากคอนเสิร์ตเล็กๆ พร้อมวิวสวยๆ รอบตัว การตกแต่งที่นี่เป็นไปอย่างตั้งใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้ดูสร้างสรรค์ แปลกใหม่ แล้วยังให้ความสุขใจ เมื่อใครๆ ได้พบเห็นอีกด้วย
3.สวิส ชีฟ ฟาร์ม จำลองบรรยากาศแบบยูโรคันทรีของประเทศสวิสเซอร์แลนด์มาไว้ในเมืองไทย ซึ่งเป็นฟาร์มแกะแห่งแรกของ อ.ชะอำ ที่เปิดบริการนั่งรถม้าเที่ยวชมบรรยากาศของทุ่งหญ้าและให้อาหารแกะแบบใกล้ชิด อีกทั้งมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาโอบล้อมไว้เป็นฉากหลัง ให้ได้ถ่ายภาพสวยๆ กลับบ้านไปอวดเพื่อนให้อิจฉาได้อย่างแน่นอน
4.เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์  แหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนใจกลางกรุง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ครบทุกสิ่งทั้งชอป ชิม ชิลล์ ถ้าไม่อยากไปไหนไกลจากกรุงเทพ ลองขับรถมาเที่ยวที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ ฟร้อนท์ แหล่งท่องเที่ยวและช้อปปิ้งไลฟ์สไตล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตั้งอยู่ตรงข้าม เจริญกรุง 93 รวบรวมร้านค้าถึง 1,500 ร้านเ พื่อรองรับนักท่องเที่ยวอย่างครบครัน
5. ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ ตลาดนัดที่มาแรงที่สุดในช่วงนี้ เพลิดเพลินกับบรรยากาศประทับใจ แหล่งรวมเฟอร์นิเจอร์ ของสะสม ของตกแต่งบ้านสุดคลาสสิค รถโบราณ อะไหล่รถคลาสสิค ของสะสมโบราณ เสื้อผ้าวินเทจ ของฝากสุดชิค และอาหารอร่อยๆ กินดื่มชิลๆ กับบรรยากาศเก๋ๆ ของโกดังเก่า ขบวนโบกี้รถไฟสุดเท่ห์ เปิด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ตั้งแต่เย็นๆ ไปจนถึง เที่ยงคืน
6. สวนซ่อนศิลป์ หรือ Secret Art Garden สวนศิลปะแห่งใหม่บริเวณตลาดน้ำศิลปะกลางดงที่ผสมผสานความงดงามของศิลปะและธรรมชาติไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว
7.art in parsdise  พิพิธภัณฑ์ศิลปะ 3 มิติเปิดใหม่ใหญ่โตอลังการ ของดีของเมืองพัทยาที่เรียกนักท่องเที่ยวให้แวะมาเยี่ยมชมของเล่นใหม่ทางสายตาได้เป็นอย่างมากในตอนนี้
8.mimosa pattaya  (มิโมซ่า พัทยา) ใหม่สดเริ่ดสุดๆ ในพัทยาตอนนี้ต้องยกให้ Mimosa Pattaya ไลฟ์สไตล์มอลล์สุดชิคที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ The City of Love เมืองเเห่งความรัก จำลองบรรยากาศจากเมือง Colmar (โกลมาร์) หรือลิตเติ้ลเวนิสในฝรั่งเศสที่ติดอันดับเมืองโรแมนติก 1 ใน 10 ของโลก
9.ตลาดน้ำขวัญเรียม  ตลาดน้ำแห่งใหม่ใจกลางกรุง ที่ตอนนี้ขึ้นแท่นเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดฮอตของเขตมีนบุรีไปซะแล้ว
10.the venezia hua hin สัมผัสบรรยากาศสุดประทับใจในแบบของเมืองเวนิส เมืองที่มีมนต์เสน่ห์ในเรื่องของการคมนาคมทางน้ำของประเทศอิตาลี ที่ถูกจำลองมาไว้ในประเทศไทย ซึ่งที่นี่เพื่อนๆ จะได้ชอปชิมชิลล์กับอาคารร้านค้าที่มีความสวยงามทางด้านสถาปัตยกรรม

วิธีชนะใจ เจ้านาย แต่ละกรุ๊ปเลือด!

เนื่องจากหัวหน้าแต่ละคนต่างก็มีบุคลิกนิสัยที่ไม่เหมือนกัน วิธีการเข้าหาหัวหน้าแต่ละคนก็ย่อมแตกต่างกันเป็นธรรมดา วันนี้เราจึงขอแนะนำวิธีเอาชนะใจหัวหน้า 3 ข้อ โดยดูจากแต่ละกรุ๊ปเลือด เพื่อท่านจะได้ใช้เป็นแนวทางในการวางตัว ปรับตัว และรู้ตัวว่าจะต้องเข้าทางไหน และก้าวสู่การเอาชนะใจผู้เป็นหัวหน้าได้ง่ายขึ้น
หัวหน้ากรุ๊ป O
1. ต้องสานต่อความสัมพันธ์ด้านความไว้วางใจ หัวหน้ากรุ๊ป O มักชอบคบหาผู้คนด้วยความจริงใจ ไม่มีการปรุงแต่ง ดังนั้น ก่อนอื่นควรเปิดใจกว้างและขอคำปรึกษาหารือกับหัวหน้ากรุ๊ป O ในทุกเรื่องทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวรับรองได้ว่าหัวหน้ากรุ๊ป O ที่ชอบให้การดูแลเอาใจใส่คนอื่น จะต้องรีบให้การปรึกษาราวกับเป็นพ่อแม่ของท่านทีเดียว แต่ถ้าหัวหน้าให้คำปรึกษาเสร็จแล้วก็เป็นอันจบเท่านั้น จะทำให้หัวหน้าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ทางที่ดีควรรายงานผลจากการปฏิบัติตามคำแนะนำให้หัวหน้าทราบด้วยเป็นการสานต่อความสัมพันธ์ด้านความไว้วางใจให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
2. แสดงท่าทางขอรับการอบรมชี้แนะจากหัวหน้า หัวหน้ากรุ๊ป O ส่วนใหญ่จะชอบการให้คำแนะนำสั่งสอนคนอื่นเป็นอย่างมาก แต่ถ้าลูกน้องคนใดวนเวียนถามแต่เรื่องเก่าเรื่องเดิมจะทำให้หัวหน้าคิดไปว่า "ลูกน้องไม่ได้ตั้งใจฟังคำแนะนำสั่งสอนเลย และจะปักใจลงไปว่าเป็นลูกน้องที่ใช้ไม่ได้" ในขณะขอรับคำแนะนำนั้น อย่าลืมแสดงความเคารพอย่างจริงใจเป็นอันขาด และถ้าลูกน้องเป็นฝ่ายอธิบายโน่นนี่ขึ้นมาบ้าง จะทำให้หัวหน้าอารมณ์เสียทันที แม้ในบ้างครั้งหัวหน้าชักจะพูดเลยเถิดนอกเหนือไปจากเรื่องที่ถามจนเกินไป ลูกน้องก็ต้องตั้งใจฟังเป็นอย่างดีด้วย
3. คอยปฏิบัติตามและแสดงให้เห็นความตั้งใจจริง "ทำตามผมนะ" หัวหน้ากรุ๊ป O ชอบที่จะคอยให้ลูกน้องคอยทำตามตนเอง ดังนั้น ลูกน้องควรทำตามหัวหน้าตั้งแต่ต้นจนจบ และต้องแสดงออกให้เห็นถึงความตั้งใจจริงด้วย เช่น ถ้ามีงานที่ต้องทำโดยไม่ได้พักผ่อนก็ต้องทำ และแม้แต่การไปเที่ยวหรือดื่มสังสรรค์ก็ต้องคอยติดตามไป แม้จะอยู่ดึกถึงเช้าก็ตามเหล่านี้จะมีผลทำให้หัวหน้ากรุ๊ป O เริ่มมองเห็นว่า "คุณมีความตั้งใจจริง" และจะค่อยๆ พึงพอใจมากขึ้นตามลำดับ
หัวหน้ากรุ๊ป A
1. ทำงานอย่างประณีต หัวหน้ากรุ๊ป A ส่วนใหญ่จะชื่นชอบความสมบูรณ์แบบและต้องการลูกน้องที่ทำงานได้อย่างเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบ ดังนั้น ถ้าต้องการให้หัวหน้ากรุ๊ป A หันมามองพิจารณาตนเองเป็นพิเศษ ต้องพยายามทำงานให้สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งเป็นการ "พูดง่าย แต่ทำยาก" ดังนั้น อีกทางหนึ่งที่จะทำให้หัวหน้าหันมาพิจารณาตนเป็นคนพิเศษ คือ ตั้งใจปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด สิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องไม่ใจร้อน พยายามทำงานอย่างประณีตและหัวหน้ากรุ๊ป A ที่มีนิสัยระมัดระวังรอบคอบเสมอนั้น ไม่น่าที่จะยัดเยียดงานให้ลูกน้องทำจนเกินกำลังอยู่แล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ตามควรจะเตือนตนให้ทำงานให้มีคุณภาพเข้าไว้ ไม่ควรทำงานแบบสุกเอาเผากินเด็ดขาด
2. แสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน หัวหน้ากรุ๊ป A ส่วนใหญ่จะเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิตของคนในโลกนี้ และมีความต้องการให้ลูกน้องมีจิตสำนึกในกฎระเบียบการทำงานเช่นเดียวกับตน กับหัวหน้ากรุ๊ป A นั้นแทนที่จะอวดอ้างสรรพคุณตนเองว่า "ผมมีความสามารถหลายอย่าง" เปลี่ยนเป็นการแสดงให้เห็นความตั้งใจ "รับผิดชอบงานอย่างเต็มที่" จะดีกว่า หัวหน้ากรุ๊ป A ใช่ว่าจะคอยจับผิดแต่ลูกน้องเท่านั้น ถ้าลูกน้องมีอาการป่วยไข้ไม่สบาย จะแสดงความมีน้ำใจไต่ถามด้วยความห่วงใยทันทีว่า "เป็นอะไรไปเหรอ" และให้การดูแลเอาใจใส่อย่างอกเข้าใจ แต่การเอ่ยคำ"ขอบคุณ" จากใจจริงก็เป็นสิ่งที่ทำให้หัวหน้ากรุ๊ป A พอใจ
3. ห้ามทำในสิ่งที่กระทบกระเทือนถึงศักดิ์ศรีของหัวหน้า หัวหน้ากรุ๊ป A มักให้ความสนับสนุนคนอื่นโดยเก็บอารมณ์ความรู้สึกส่วนตัวของตัวเองเอาไว้ในกรอบที่แน่นหนา ภายนอกดูเป็นคนสงบนิ่งและเยือกเย็น แต่ความรู้สึกภายในนั้นอ่อนแรงและมีความทะนงมากที่สุดในบรรดากรุ๊ปเลือดทั้งหมด ดังนั้น ถ้ามีการกระทบกระทั่งในเรื่องศักดิ์ศรีและความทะนงเข้า จะรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง และระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างโกรธจัด ด้วยเสียงอันดัง เมื่ออยู่ต่อหน้าบุคคลที่สาม จึงห้ามพูดถึงความผิดพลาดของหัวหน้า และห้ามแสดงความไม่เห็นด้วยหรือขัดแย้งกับหัวหน้าอย่างเด็ดขาด ถ้าต้องการแสดงความไม่เห็นด้วย ควรแสดงออกมาเมื่ออยู่กันเพียง 2 คน ด้วยท่าทางที่อ่อนน้อมถ่อมตน เพื่อแสดงการขอโทษกับสิ่งที่ตัวเองพูด
หัวหน้ากรุ๊ป B
1. ควรหมั่นรายงานความเป็นไปของงานที่ได้รับมอบหมาย หัวหน้ากรุ๊ป B จะรักอิสระไม่ชอบการผูกมัด จึงมอบหมายงานให้ลูกน้องทำอย่างอิสระ แต่นิสัยด้านหนึ่งของคนกรุ๊ป B คือ ความขี้อิจฉา ดังนั้น การที่ลูกน้องทำงานเองทั้งหมดจนเสร็จเรียบร้อย โดยไม่รายงานขั้นตอนความเป็นไปให้ทราบ จึงทำให้หัวหน้ากรุ๊ป B ไม่พอใจและอารมณ์เสียที่ลูกน้องมองไม่เห็นความสำคัญของตน ดังนั้น แม้หัวหน้ากรุ๊ป B บอกว่า "ช่วยทำให้หมดเลยนะ" ก็ตาม ลูกน้องควรจะรายงานผลความคืบหน้าของงานเป็นระยะๆ อันเป็นการแสดงออกถึงการให้ความสำคัญกับหัวหน้างานนั่นเอง
2. หมั่นเข้าหาและชื่นชมยกย่องเพื่อให้มีอารมณ์ดี หัวหน้ากรุ๊ป B นั้นมักจะอารมณ์ดีขึ้น เมื่อได้รับคำชม หรือคำยกยอ ซึ่งถ้าหัวหน้ากรุ๊ป O หรือ A คงจะหันหน้าหนีด้วยความเลี่ยน แต่หัวหน้ากรุ๊ป B จะปลื้มกับคำชมหรือการยกยอเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์ อันเป็นความสามารถที่โดดเด่นของคนกรุ๊ป B และจะเป็นจุดสำคัญในการเอาชนะใจหัวหน้ากรุ๊ปนี้ที่ได้ผลเป็นอย่างดี
3. ประชาสัมพันธ์ตนเอง หัวหน้ากรุ๊ป B มักไม่ชอบความธรรมดา หรือรูปแบบธรรมดาทั่ว ๆ ไป และมักจะคิดว่าการที่ลูกน้องดูเรียบร้อยถูกต้องตามระเบียบไปเสียทุกอย่างนั้นน่าเบื่อ จึงมักจะใช้การสนับสนุนลูกน้องที่มีความดิ้นรนพยายามทำในสิ่งที่แปลกแหวกแนวออกไป หัวหน้ากรุ๊ป B นั้น มักจะเข้าถึงความรู้สึกหรือความเป็นไปของลูกน้องได้ไม่ดีเท่าหัวหน้ากรุ๊ป A ดังนั้น วิธีเข้าหาหัวหน้ากรุ๊ป B ที่ดีอีกวิธีหนึ่ง คือ การประชาสัมพันธ์ตนเองโดยการแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่โดดเด่น และถ้ามีความคิดเห็นต่างจากหัวหน้าก็ควรพูดคุยกันให้ชัดเจน หัวหน้ากรุ๊ป B มักจะพอใจลูกน้องที่สามารถทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้
หัวหน้ากรุ๊ป AB
1. มีความสามารถในการทำงาน หัวหน้ากรุ๊ป AB จะชอบทำงานมากและจะชื่นชอบลูกน้องที่ทำงานเร็ว แต่ไม่ได้ชอบคนที่มีความขยัน เช่นคนปกติธรรมดาทั่วไป วิธีทำหรือขั้นตอนการทำงานไม่ใช่ปัญหา สิ่งสำคัญคือผลงาน นอกจากนั้น หัวหน้ากรุ๊ป AB จะชอบทำงานมากมายหลายอย่างจึงมีจุดอ่อนอยู่ที่คำพูดที่ว่า "ผมยินดีรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างเต็มที่ครับ" ดังนั้น จึงทำให้หัวหน้ากรุ๊ป AB มีงานในความรับผิดชอบมากมาย เมื่อมีลูกน้องมาช่วยแบ่งเบาภาระความรับผิดชอบให้เบาบางลงบ้าง จึงจะรู้สึกสบายใจขึ้น แต่อย่างไรก็ตามผลงานที่รับไปนั้นต้องออกมาดีเสมอ เพราะหัวหน้ากรุ๊ป AB จะไม่สนใจลูกน้องที่ทำงานไม่เก่ง
2. อย่าเอาเวลางานไปใช้ในเรื่องส่วนตัว หัวหน้ากรุ๊ป AB จะแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันโดยเด็ดขาด และไม่ชอบที่จะให้ความสนิทสนมกับลูกน้องคนหนึ่งคนใดโดยเฉพาะ ทั้งยังไม่ชอบที่จะรับฟังหรือช่วยแก้ปัญหาส่วนตัวของลูกน้อง จึงควรสร้างความสัมพันธ์อยู่ห่างๆ กับหัวหน้ากรุ๊ป AB จะดีกว่า และไม่ควรนำเวลางานไปใช้ในเรื่องส่วนตัว หัวหน้ากรุ๊ป AB จะโกรธมาก ถ้ารู้ว่าลูกน้องนำเรื่องส่วนตัวเข้ามาปรึกษาหารือด้วย
3. ห้ามพูดโกหก หัวหน้ากรุ๊ป AB นั้นมีความรู้สึกไวในการรับรู้เรื่องความถูกต้อง จึงสามารถรับรู้ได้ทันทีว่าเรื่องที่พูดนั้นเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหก ดังนั้น ถ้าทำงานผิดพลาดขึ้นมาควรจะยอมรับผิดอย่างซื่อสัตย์ การจะเข้าหาหัวหน้ากรุ๊ป AB นั้นสิ่งที่สำคัญคือความจริงใจและความซื่อสัตย์ อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติตนอย่างดีต่อกัน ด้วยท่าทีทีสร้างสรรค์ จริงใจ ไม่เสแสร้ง ย่อมนำมาซึ่งบรรยากาศที่ดี ในกรณ๊นี้ก็เช่นเดียวกัน ทุกแนวทางการปฏิบัตินั้น ต้องไม่เสแสร้ง กระนั้นก็ตาม ต้องไม่ลืมว่า คน...ไม่ได้เป็นผลของกรุ๊ปเลือดอย่างเดียว คน...ยังเป็นผลของการเลี้ยงดู การได้รับคำอบรมสั่งสอน การศึกษา การถูกปลูกสร้างทัศนคติที่สร้างสรรค์ ท่าทีในการมองมนุษย์ด้วยกันอย่างให้เกียรติ ตลอดจนคุณธรรม จริยธรรมประจำใจของเขาด้วย
กรุ๊ปเลือดเป็นเพียงหนึ่งในความเป็นคนของเขาเท่านั้น...ไม่ใช่ทั้งหมด แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นต้องขึ้นกับตัวของคุณเองที่จะปฏิบัติอย่างไรด้วย นี่เป็นเพียงการแนะนำให้เพื่อไปปรับใช้เท่านั้นนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก FW Mail 
ภาพประกอบจาก Photos.com

วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เสน่ห์ของเฟอร์นิเจอร์สีขาว

เฟอร์นิเจอร์โทนสีคลาสสิค ดูดี  ต้องยกให้ “สีขาว”  นอกจากจะเป็นสีที่คลาสสิคแล้ว ยังเข้าชุดกันกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นได้ง่าย  ไม่ว่าคุณจะชอบแต่งบ้านสไตล์ไหน  โมเดิร์น คลาสสิค หรือวินเทจ
white-furniture-decor
เติมสีสันให้เฟอร์นิเจอร์สีขาว ด้วยหมอนอิงและผ้าห่ม สีส้ม น้ำเงินหรือสีแดงเพื่อให้ตัดกับเฟอร์นิเจอร์สีขาว  หาภาพวาดแคนวาส  หรืองานศิลปะสวยๆ มาติดผนัง
white-sofa-red-pillow
เฟอร์นิเจอร์สีขาวสร้างบรรยากาศชายทะเล หาหมอนสีฟ้าหรือลายทาง เตียงและผ้าปูที่นอนสีขาว   ชวนให้นึกถึงท้องฟ้าสีครามน้ำทะเล และหาดทรายสีขาว  ผ้าปูที่นอนลายปลาดาว  เปลือกหอย  และของแต่งบ้านเสริมอื่นๆ  ที่เกี่ยวกับทะเลหรือชายหาด  เช่น  สมอเรือ  ม้าน้ำ  ตุ๊กตานางเงือก หรือเฟอร์นิเจอร์ที่มีลิ้นชัก
beach-bedroom
สร้างบรรยากาศสไตล์ New England  ด้วยเฟอร์นิเจอร์สีขาวกับของแต่งบ้านโทนสีเทาหรือน้ำตาลอ่อน เช่น ขอนไม้ หีบไม้เก่าๆ แมทช์กับโซฟานุ่มสีขาว

antique-trunk
ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์สีขาวด้วยของแต่งบ้านจากร้านขายของเก่าหรือมือสอง  เช่น หนังสือเก่า  งานควิลท์  งานฝีมือ  ภาพวาดศิลปะติดผนังต่างๆ
Vintage-Desk-Carved-White
แม้ว่าเฟอร์นิเจอร์สีขาวของคุณจะสวยเด่นแค่ไหน แต่ถ้าดูหมองเก่าหรือก็คงจะไม่ดีนัก ดังนั้นควรดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์สีขาวให้สะอาดอยู่ตลอด ด้วยการใช้ผ้านุ่มชุบน้ำหรือน้ำยาทำความสะอาดเช็ดเบาๆ หรือเคลือบเงาเดือนละครั้ง เท่านี้เฟอร์นิเจอร์ก็ดูเหมือนใหม่ได้แล้ว

วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ชื่อแบรนด์แนม อ่านอย่างไรให้ถูกต้อง

ยังเห็นหลายๆ คนอ่านชื่อแบรนด์ต่างๆ อย่างถูกๆ ผิดๆ คราวนี้ มาเรียกชื่อแบรนด์เนมต่างๆ ให้ถูกกันเถอะครับ
ซึ่งทั้งหมดนี้ รวมรวมโดย คุณ vivienc จากห้องโต๊ะเครื่องแป้ง พันทิพ ดอทคอม
AIIZ > เอทูแซด , เอทูซี
Asos > เอซุส , เอซอส
Agnes b' > อานยาส เบ
Anna sui > แอนนาซุย
Adidas > อดิดาส , อดิแดด
BURBERRY > เบอเบอรี่
BVLGARI > บุลการี
Balmain > บาลแมง
Body Glove > บอดี้โกลฟ
BALENCIAGA > บาเลนเซียก้า , บาลองเซียก้า ตามชื่อ Cristobal Balenciaga ดีไซเนอร์ชาวสเปน ผู้ก่อตั้งแบรนด์
Celine > ซีลีน
Chaps > แชปส์
Cath kidston > แคท คิดสตัน (คิด-ออกเสียง s นิดนึง - ตั้น ไม่ใช่ คิด-สะ-ตั้น)
Casio > คาสิโอ้
CC-OO > ซีซีดับเบิ้ลโอ
Coach > โคช
Converse > คอนเวิร์ส
Chloe > โคลเอ้
Chanel > ชาแนล
Comme des Garcons > กอมเดกาซง
Charles & Keith > ชาร์ล แอนด์ คีธ , เคท
Dior > ดิออร์
Disaya > ดิษยา (แบรนด์ไทย)
DKNY > ดีเคเอ็นวาย (Donna Karan New York )
Diesel > ดีเซล
Dooney & bourke > ดูนี่ แอนด์ เบิร์ก
Dr.martens > ด็อกเตอร์มาติน , ด็อกเตอร์มาเต็น
Dolce & Gabbana > โดลเช่ , ดอลเช่ แอนด์ แกบาน่า
Domon > โดมอน
Etienne Aigner > อีเทียน แอคเนอร์
Ermenegildo zegna > แอร์เมเนจิลโด้ เซนย่า
ESPRIT > เอสพรี
Etude > อีทูดี้ (มีใครอ่านอีตุ้ดมั้ยเอ่ย)
ELLE > แอล
ECCO > เอคโค่
Fly now > ฟลายนาว
Forever 21 > ฟอร์เอฟเวอร์ ทเวนตี้วัน (สงสัยว่าแบรนด์เดียวกับ XXI Forever รึปล่าวคะ)
Fubu > ฟุบุ
Fallen > ฟอลเลน
Fila > ฟีล่า
Fred perry > เฟรด เพอร์รี่
Furla > เฟอร์ลา , ฟูล่าร์
FBT > เอฟบีที
Gucci > กุชชี่
Givenchy > จีวองชี
Guess > เกสส์
G2000 > จีทูเธาว์สัน
Gap > แก๊ป
Guy Laroche > กีลาโรซ
Giorgio Armani > จอร์โจ อาร์มานี , จิออร์จิโอ อาร์มานี
greyhound > เกรฮาวด์
H&M > เอช แอนด์ เอ็ม
Harrod > แฮร์รอดส์
Hermes > แอร์-เมส , เฮอเมส
IKEA > อิเกีย ,ไอเกีย
Issey miyake > อิซเซ่ มิยาเกะ
Jaspal > ยัสปาล , จัสปาล
Kipling > คิปลิงค์ (นึกแบรนด์นี้ได้เพราะกระทู้แฟนซื้อคิปลิงค์สีจีวรให้ 5555555)
Kyra > ไคร่า
Kenzo > เคนโซ่
Kloset > โครเซท
Kate spade > เคท สเปด
Lexus > เลคซัส
LOEWE > โลเอเว่
Lacoste > ลาคอสต์
Louis Vuitton > หลุย(ไม่มี ส์)วิตตอง
Lancome > ลังโคม
Levi's > ลีวายส์
LYN > ลินน์
Lanvin > ลองแวง
Lowe alpine > โลว์ แอลป์ , โลว์ อัลไพน์ , โลเว่ อัลปิเน่(อิตาเลี่ยนใช้)
Mango > แมงโก้
Muji > มูจิ
MARC JACOBS > มาร์ชเจค็อบ , มาร์ชจาค็อบ ออกเสียง"เคอะ"กับ S ด้วยก็จะดี 
Mc > แม็ค
Milin > มิลิน
Mulberry > มัลเบอรี่
Moschino > มอสชิโน่
Misty Mynx > มิสตี้ มิงซ์
NIKE > ไนกี้
Old navy > โอล นาวี , เนวี
Oasis > โอเอซิส
PAN > แพน
Polo > โพโล , โปโล
Play boy > เพลย์บอย
Puma > พูม่า
Prada > พราด้า , ปราด้า
Pena house > พีน่าเฮ้าส์
Pierre Cardin > ปิแอร์ การ์แดง 
Reebok > รีบ็อก
Rolex > โรเล็กซ์
Soda > โซดา
Sonia Rykiel > โซเนีย ริเคียล
Sretsis > สเรทซิส
S'fare > เอสแฟร์
Timberland > ทิมเบอร์แลนด์
Tom ford > ทอมฟอร์ด
Tu'i > ทูอี้ (ทีแรกไม่เห็น ' แอบอ่าน ทุย เพราะเห็นว่าเป็นแบรนด์ไทย 5555)
Triumph > ไทรอัมพ์
Top shop > ท็อปช็อป
Tommy Hilfiger > ทอมมี่ ฮิลฟิเกอร์
Uniqlo > ยูนิโคล่
Volcom > วอร์คอม 
Versace > เวอซาเช่
Victoria secret > วิคตอเรีย , วิคทอเรีย ซีเคร็ต
Wilson > วิลสัน
Yves Saint Laurent > อีฟ แซงต์ โลรองต์
Yonex > โยเน็กซ์
Zara > ซาร่า
รวมข้อมูลจากในเน็ตและคนรอบตัว  ผิดหรือจะเพิ่มเติมยังไงบอกได้จะแก้ให้ แบรนด์ที่นึกออกก็มีเท่านี้ ใครช่วยเพิ่มก็ได้นะครับ

ขอบคุณ คุณ vivienc ห้องโต๊ะเครื่องแป้ง พันทิพดอทคอม

12 จุดไม่ควรมองข้าม หากคิดจะซื้อบ้านมือสอง


          ใคร ๆ ก็อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง เพราะเงินค่าเช่าบ้านที่จ่ายอยู่ทุกเดือนก็ต่างจากค่าผ่อนบ้านไม่มากนัก แต่ถ้าใครยังไม่มีทุนพอจะสร้างบ้านให้ตัวเอง และกำลังเล็งหาบ้านมือสองหลังเหมาะ ๆ อยู่ ก็อยากให้มาดูจุดสังเกตที่ไม่ควรมองข้ามในการเลือกซื้อบ้านกันก่อน จะได้มีบ้านสวยถูกใจ คุ้มค่ากับเงินที่ซื้อไป ไม่พลาดมีปัญหาจุกจิกกวนใจในภายหลังนะจ๊ะ
 1. แหงนมองหลังคาบ้าน

          หลังคาบ้านถือเป็นโครงสร้างที่สำคัญอันดับต้น ๆ เพราะถ้าหากเกิดชำรุดหรือรั่วขึ้นมา คราวนี้ ทั้งฝน ทั้งฝุ่น คงจะเล็ดลอดเข้ามาอย่างง่ายดาย ดังนั้นก่อนอื่นเราต้องแหงนดูหลังคาบ้านก่อน สำรวจความเสียหาย หรือดูง่าย ๆ จากสภาพหลังคาบ้านก็ได้ ถ้ามันดูเก่ามากนักก็ลองเสนอให้เขาเปลี่ยนหลังคาให้ใหม่เลยจะดีกว่า เพื่อเลี่ยงปัญหาจุกจิกจนต้องเสียเงินเปลี่ยนหลังคาเองในภายหลัง

 2. สำรวจการวางท่อและสายไฟ

          ระบบสาธารณูปโภคอย่างท่อประปา ท่อน้ำทิ้ง และสายไฟ ก็ควรต้องสังเกต เพราะถ้าหากวางระบบท่อเอาไว้ไม่ดี จะทำให้เกิดปัญหาท่อน้ำรั่ว อุดตัน ระบายน้ำได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือถ้าหากวางระบบท่อประปาไม่ถูกต้อง ก็จะเกิดปัญหาน้ำไหลไม่แรง หรือไหลไม่ค่อยสะดวกขึ้นมาอีก ส่วนการจัดระเบียบสายไฟก็เช่นกัน หากช่างไม่มีความชำนาญและเดินสายไฟไม่เรียบร้อย บ้านก็จะดูไม่สวยงาม อีกทั้งหากไฟรั่วก็อาจจะโดดไฟดูดเป็นอันตรายได้ง่าย ๆ

จุดไม่ควรมองข้าม หากจะซื้อบ้านมือสอง

 3. ตรวจสอบผนังและการปูพื้นกระเบื้อง

          ส่วนมากบ้านที่เตรียมพร้อมจะขายต่อมักจะมีการตกแต่งที่สวยงาม ชวนให้น่าซื้อ แต่ก็อย่าเผลอชื่นชมความงามจนมองข้ามโครงสร้างการปูพื้นผนัง และพื้นกระเบื้องไปด้วย เพราะถ้าหากมีรอยร้าว รอยเปื้อนจากคราบสกปรกต่าง ๆ บนผนัง หรือปูกระเบื้องได้ไม่เรียบเสมอกันจะได้สังเกตเห็น และขอให้เขาซ่อมแซมแก้ไขได้ทัน

 4. ระวังปัญหาน้ำรั่วซึม

          หากสังเกตเห็นรอยเปียกชื้นที่ผนังกำแพงด้านล่าง ช่วงระหว่างรอยต่อของกำแพงและพื้น นั่นก็แสดงว่า ระบบท่อน้ำทิ้งของบ้านหลังนี้มีปัญหา อาจจะเกิดจากการวางระบบท่อน้ำทิ้งไม่ถูกต้อง หรืออาจจะเป็นเพราะโครงสร้างหลังคาเกิดรอยรั่วขึ้นแล้ว ดังนั้นก็ควรแจ้งให้นายหน้าหรือเจ้าของบ้านคนเก่าทราบถึงปัญหานี้ตั้งแต่เริ่มแรกเลย เพื่อที่เขาจะได้หาทางจัดการหรืออาจจะถึงขั้นต้องรื้อระบบการวางท่อน้ำทิ้งใหม่กันต่อไป

 5. เตาไฟฟ้าดีกว่าเตาแก๊ส

          สำหรับห้องครัว ถ้าเป็นไปได้อยากจะแนะนำให้เลือกใช้เตาไฟฟ้าแทนเตาแก๊ส เพราะร้อนเร็วกว่า และมีความเสี่ยงน้อยกว่า นอกจากนี้ยังมีความสวยทันสมัยอยู่ในตัว ทำให้ห้องครัวสวยงามน่าใช้มากขึ้น และถึงแม้เตาไฟฟ้าจะเปลืองไฟ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความปลอดภัยมากกว่าเตาแก๊สที่อาจเกิดการรั่วขึ้นมาได้

 6. เลี่ยงฉนวนใยหิน

          น้อยคนนักที่จะรู้ว่าจริง ๆ แล้วแร่ใยหิน (Asbestos) ที่เป็นหนึ่งในส่วนผสมของวัสดุก่อสร้างต่าง ๆ เป็นอันตรายต่อสุขภาพค่อนข้างมาก เพราะหากสูดดมเข้าไปเกินปริมาณ ก็อาจจะสะสมในร่างกายและก่อให้เกิดก้อนเนื้อร้าย หรือมะเร็งได้ ดังนั้นทางที่ดีเราก็ควรจะเลี่ยงใช้วัสดุก่อสร้างที่มีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบ ซึ่งส่วนมากจะพบได้ในกระเบื้องมุงหลังคาแบบลอนลูกฟูก ท่อระบายน้ำ กระเบื้องปูพื้น ฝ้าเพดาน ฝาผนัง ฉนวนกันความร้อน สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ จากวัสดุที่มีความวาวใส หรือจะใช้วิธีถามเอาตรง ๆ กับนายหน้าขายบ้านเลยก็ได้

จุดไม่ควรมองข้าม หากจะซื้อบ้านมือสอง

 7. เช็กระบบปรับอากาศ

          บ้านที่มีเครื่องปรับอากาศ ก็ควรจะเช็กระบบทำความเย็นด้วย ว่าเป็นเครื่องปรับอากาศที่มีระบบการทำงานแบบควบคุมจากส่วนกลาง หรือ Central A/C หรือเปล่า เพราะระบบนี้จะมีตัวคอยล์เย็นหลายตัวซึ่งสามารถทำความเย็นพร้อม ๆ กันได้มากกว่าหนึ่งห้อง จึงให้ความเย็นได้ทั่วถึงทั้งบ้าน ประหยัดพลังงานได้เยอะกว่าเครื่องปรับอากาศระบบอื่น ๆ นอกจากนี้ควรต้องสอบถามจากเจ้าของบ้านคนเก่า ว่าติดตั้งแอร์มานานกี่ปีแล้ว และล้างแอร์ครั้งล่าสุดเมื่อไร แต่ถ้าจะให้แน่ใจ ควรเรียกช่างแอร์มาเช็กระบบแอร์ให้รู้กันจะจะไปเลยจะดีที่สุด

 8. ทำเลที่ตั้งก็สำคัญ

เชื่อได้ว่าทำเลที่ตั้งของบ้านเป็นข้อแรก ๆ ที่ผู้ซื้อบ้านจะคำนึงถึง เพราะหากมีบ้านอยู่ในทำเลที่ดี มีทั้งตลาด ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน หรือใกล้ที่ทำงานก็จะดีมาก ถือเป็นทำเลทองที่น่าจะมีราคาบ้านแพงอยู่พอสมควร ดังนั้นหากงบซื้อบ้านของคุณน้อย จะเลือกทำเลที่เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก ไม่วุ่นวาย ไม่ไกลความเจริญ โรงเรียนของลูก และที่ทำงานของคุณมากนักก็ได้

 9. พื้นต้องไม่ลาดเอียง

          นอกจากต้องตรวจสอบการปูพื้นผนังและพื้นกระเบื้องแล้ว โครงสร้างการปูพื้นบ้านก็ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน เพราะถ้าหากช่างปูพื้นบ้านได้ไม่เรียบแน่นเสมอกัน อาจจะเกิดปัญหาบ้านลาดเอียง ปิดประตู หน้าต่างได้ไม่สนิท และพื้นก็จะกร่อนได้ง่ายด้วยค่ะ ดังนั้นหากเจอปัญหาอย่างนี้ ก็ต้องแจ้งให้ผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบได้รับทราบ เพื่อจะได้ซ่อมแซมแก้ไขปัญหากันต่อไป

จุดไม่ควรมองข้าม หากจะซื้อบ้านมือสอง

 10. ระบบไฟต้องเพียงพอ

          ระบบไฟในบ้านควรจะมีมิเตอร์ที่สามารถรองรับกำลังการใช้ไฟได้ 15 แอมป์ หรือ 30 แอมป์ จะดีมาก เพื่อให้รองรับการเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อม ๆ กันได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องเสี่ยงไฟดับทั้งบ้านหรือไฟฟ้าลัดวงจรจนเป็นอันตราย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณอาจจะต้องไปแจ้งความจำนงค์ขอติดตั้งมิเตอร์เพิ่มเองกับการไฟฟ้า ในกรณีที่บ้านหลังนั้นใช้มิเตอร์กำลังไฟน้อยกว่าที่คุณต้องการ

 11. สอดส่องแมลง

          แมลงและสัตว์ต่าง ๆ ที่อยู่รายล้อมบ้านก็ควรต้องระวัง โดยเฉพาะบ้านไม้ยิ่งต้องดูแลเรื่องมด มอดและปลวก เพราะแมลงเหล่านี้สามารถทำลายพื้นไม้ให้ผุกร่อน หมดสภาพการใช้งานเร็วกว่าที่ควร และถ้าหากพบว่ามีร่องรอยการกัดแทะไม้ หรือร่องรอยพื้นไม้ถูกทำลาย ต้องรีบแจ้งให้ช่างกำจัดแมลงมาจัดการกับมันทันที เพื่อป้องกันความเสียหายที่มากกว่านี้นะคะ

 12. ต้องไม่มีคราบเชื้อราและความสกปรก

          บ้านที่น่าอยู่ต้องสะอาดสะอ้าน และปลอดเชื้อโรคเชื้อราทุกชนิด ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้าน ควรต้องเดินสำรวจดูรอบ ๆ บ้านอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม โดยเฉพาะบริเวณจุดอับ และขอบหน้าต่าง มุมกำแพง พื้น ผนัง ว่ามีคราบสกปรก และเชื้อราอยู่หรือไม่ หากพบว่ามีก็แสดงว่านอกจากบ้านจะไม่สะอาดน่าอยู่แล้ว ยังอาจจะมีปัญหาพื้นผนังและหน้าต่างรั่วซึมอีกด้วย


          ก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้านมือสองสักหลัง ก็อยากให้นำจุดน่าสังเกตที่เรานำเสนอ ไปใช้สำรวจบ้านกันดู เพื่อกรองความเสี่ยงซื้อบ้านไม่ได้มาตรฐานออกไปสักหน่อย และรับรองว่าคุณจะตัดสินใจซื้อบ้านมือสองได้คุ้มค่า และน่าอยู่อย่างแน่นอนค่ะ

ที่มา kapook.com

เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด


เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด
เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด
เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด
เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด
เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด
เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด
เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด
เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด
เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด
เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด
เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด
เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด
เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด
เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด
เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด
เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด
เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด
เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด
เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด
เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด
เครื่องเล่นหวาดเสียวที่สุดในโลก เเต่ละที่น่ากลัวชะมัด

ที่มา kapook.com